Wat Sunthon Thammathan, Pom Prap Sattru Phai, Bangkok, Thailand
วัดสุนทรธรรมทาน ป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ประเทศไทย
                    
<^>>^>
 

Wat Sunthon Thammathan Ubosot (DTHB0578)
วัดสุนทรธรรมทาน พระอุโบสถ

Wat Sunthon Thammathan Gable (DTHB0579)
วัดสุนทรธรรมทาน หน้าจั่ว

Wat Sunthon Thammathan Gable (DTHB0580)
วัดสุนทรธรรมทาน หน้าจั่ว

Wat Sunthon Thammathan Gable (DTHB1260)
วัดสุนทรธรรมทาน หน้าจั่ว

Wat Sunthon Thammathan Gables (DTHB1261)
วัดสุนทรธรรมทาน หน้าจั่ว
 
Jian Zhe Li
วัดสุนทรธรรมทาน

Wat Sunthon Thammathan Gable (DTHB1262)
วัดสุนทรธรรมทาน หน้าจั่ว

Wat Sunthon Thammathan Gable and Window (DTHB0581)
วัดสุนทรธรรมทาน หน้าจั่วและหน้าต่าง

Wat Sunthon Thammathan Bell Tower (DTHB0582)
วัดสุนทรธรรมทาน หอระฆัง
Jian Zhe Li
วัดสุนทรธรรมทาน
 
Wat Sunthon Thammathan, วัดสุนทรธรรมทาน, a civil temple, was once called Wat Khae, presumably meaning "nearby temple", in accord with the dialect of the southern people who lived in the vicinity. Another name for the temple was Wat Sanam Krabue due to its location in Sanam Krabue sub-district.  King Rama III allocated this area for settlement of Thai and Muslim people who had migrated from the south.  There is a legend that Phraya Cha Saenyakon found a Buddha image submerged at Bang Kholaem sub-district.  He thereupon dedicated his house, which was later converted to a temple, to enshrine the statue.  Phraya Sombat Yaphiban also donated a house with land as an addition to the temple.  In the reign of King Rama IV, Phrachao Borommawongthoe Krommamuen Sunthon Thipbodi, the son of King Rama III and Phra Thamma Thanachan, the abbot of Wat Saket Woramahawihan, jointly renovated the temple.  The temple was then renamed to the current Wat Sunthon Thammathan, the combination of the two donors' names.  The temple has an Ubosot (Ordination Hall) of Thai architectural style with surrounding walls, three-tiered roof and carved, gilded and lacquered windows and doors.

วัดสุนทรธรรมทาน เป็นวัดราษฎร์ มีชื่อเรียกเดิม ๒ ชื่อคือ วัดแค และ วัดสนามกระบือ ที่มาของชื่อ วัดแค สันนิษฐานว่า เพี้ยนมาจากคำว่า วัดแค่ ซึ่งแปลว่า วัดใกล้ ๆ ตามสำเนียงพูดของคนปักษ์ใต้ที่อาศัยอ่ยู่ในบริเวณนี้ ส่วนชื่อ วัดสนามกระบือ เพราะวัดตั้งอยู่ในบริเวณที่เริยกกันว่า ตำบลสนามกระบือ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ทรงพระกระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานที่ดินบริวณนี้ให้เป็นที่ตั้งบ้านเรือนของชาวไทยและมุสลิม ซึ่งอพยพมาจากภาคใต้ มีตำนานว่า พระยาจ่าแสนยากร ได้พบพระพุทธรูปจมอยู่ใต้น้ำที่ตำบลบางคอแหลม จึงอุทิศบ้านให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป และได้สร้างเป็นวัด ขึ้ในเวลาต่อมา พระยาสมบัติยาภิบาล ได้ถวายบ้าและที่ดินให้วัดอีก ในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระเจ้าบระมวงศเธอ กรมหมื่น สุนทรธิบดี พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๓ และ พระธรรมทานาจารย์ เจ้าอาวาส วัดสระเกศวรมหาวิหาร ร่วมกันบูรณะปฏิสังขรณ์ วัดได้รับพระราชทานนามใหม่ จากการนำพระนามของทั้งสองท่านมารวมกัน เป็น วัดสุนทรธรรมทาน พระอุโบสถมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมทรงไทย มีชานกำแพงแก้วล้อมรอบ หลังคาลด ๓ ชั้น บานประตูหน้าต่างแกะสลักลงรักปิดทอง

Wikimapia location

Scenic Photography by Gerry Gantt from Thailand, the land of Golden Wats.
All images Copyright © 1999 - by Gerry Gantt, all rights reserved.