|
Wat Suthat Thepwararam Ratchaworamahawihan, Phra Nakhon, Bangkok, Thailand With The Giant Swing วัดสุทัศน์เทพวรารามวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร พระนคร กรุงเทพฯ ประเทศไทย |
|||||
| <^>>^> | |||||
|
|||||
|
Wat Suthat Thepwararam Ratchaworamahawihan, วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร, was founded by King Rama I in the central area of Bangkok. He built the large Wihan similar in style to the Wihan of Wat Phanan Choeng in Ayutthaya. The Sukhothai style bronze Buddha, brought from Wat Mahathat in Sukhothai, was installed inside the Wihan. The image was called Phra Toh or Phra Yai which means Big Buddha Image. The Wihan (main hall) was completed in the reign of King Rama III. Then the Ubosot (Ordination Hall) was built along with a principal Buddha image for that hall. The temple was then named Wat Suthat Thepwararam. Later King RAma IV named the principal image inside the Wihan Phra Phuttha Srisakkayamuni and the principal image inside the Ubosot Phra Phuttha Trilokachet. วัดสุทัศนเทพวราราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร รัชกาลที่ ๑ ทรงโปรดเกล้า ฯ ให้สถาปนาชึ้นเป็น วัดกลางพระนคร และสร้างพระวิหารสูงใหญ่เทียบเท่าวัดพนัญเชิงของกรุงศรีอยุธยา จากนั้นทรงอัญเชิญพระพุทธรูปโลหะปางมารวิชัย ซึ่งหล่อขึ้นตั้งแต่สมัยกษัตริย์ราชวงศ์พระร่วง ที่เรียกกันว่า พระโต หรือ พระใหญ่ จากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๓ ทรงสร้างพระวิหารต่อจนเสร็จ พร้อมกับสร้างพระอุโบสถและหล่อพระประธานขึ้นใหม่ พระราชทานนามวัดเป็น วัดสุทัศน์เทพวราราม จากเดิมที่เรียกกันว่า วัดพระโต จนถึงสมัยรัชกาลที่ ๔ ทรงถวายพระนาม พระโต ซึ่งเป็นพระประธานในพระวิหารว่า พระพุทธศรีศากยมุนี และพระประธานในพระอุโบสถว่า พระพุทธตรีโลกเชฎฐ์ Wat Suthat Thepwararam, วัดสุทัศน์เทพวราราม, is one of six temples of the first grade in Thailand. Construction was begun by King Rama I in 1807 (B. E. 2530), to mark the 27 anniversary of the founding of Bangkok, with further construction by King Rama II and was completed in the reign of King Rama III. Wat Suthat is famous for the superb murals dating from the reign of King Rama III. In front of the temple may be seen the giant red swing, Sao Ching Cha, which was used for Brahmanic rituals up through the early 20th century. The principal Wihan is on a three-level platform with small chapels at each corner of the upper level. The main Buddha image, Phra Sisakayamuni, is the largest and oldest bronze cast Buddha image in Thailand. The Ubosot is surrounded by many Chinese statues which arrived in Thailand as ballast used in sailing ships. The Wihan is also surrounded by 28 sandstone pagodas on the upper-level wall (representing the 28 Buddhas born on earth) and by beautiful bronze horses at each corner of the lowest level. The Ubosot contains Phra Buddha Trilokachet and the Meeting Hall (Sala Kan Parien) holds Phra Buddha Setthamuni. วัดสุทัศนเทพวรารามเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. ๒๓๕๐ เดิมพระราชทานนามว่า วัดมหาสุทธาวาส โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระวิหารขึ้นก่อนเพื่อประดิษฐานพระศรีศากยมุนี (พระโต) ซึ่งอัญเชิญมาจากพระวิหารหลวงวัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย แต่สิ้นรัชกาลก่อนที่จะประดิษฐานเป็นสังฆาราม จึงเรียกกันว่า วัดพระโต วัดพระใหญ่ หรือวัดเสาชิงช้าบ้าง จนกระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างต่อ และทรงจำหลักบานประตูพระวิหารด้วยพระองค์เอง แต่ก็สิ้นรัชกาลเสียก่อนที่การก่อสร้างจะแล้วเสร็จ การก่อสร้างวัด มาเสร็จบริบูรณ์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ใน พ.ศ. ๒๓๙๐ และพระราชทานนามว่า วัดสุทัศนเทพวราราม ปรากฏในจดหมายเหตุว่า วัดสุทัศนเทพธาราม และในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผูกนามพระประธานในพระวิหาร พระอุโบสถ และศาลาการเปรียญ ให้คล้องกันว่า พระศรีศากยมุนี พระพุทธตรีโลกเชษฐ์ และ พระพุทธเสรฏฐมุนี (Adapted from Wikipedia). Wikimapia location |
|||||
Scenic Photography by Gerry Gantt from Thailand, the land of Golden Wats. All images Copyright © 1999 - by Gerry Gantt, all rights reserved. |
